แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง เป็นแมวหายากหรือไม่ ?

ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง

แมวไร้ขน ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง ในตลาดจำหน่ายสัตว์เลี้ยง สาเหตุที่ว่าทำไม แมวสายพันธุ์นี้ถึงมีราคาแพงกว่า ยอร์คช็อกโกแลต หายาก หลายเท่า แล้วเป็นแมวหายากหรือไม่อย่างไร นี่เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมว ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ถ้าเทียบกับแมวสฟิงซ์ แต่กลับเป็นแมวที่มีทาสแมวต้องการเยอะ

ทำความรู้จักแมวไร้ขน นามว่า “ Peter Bald ”

แมวพันธุ์ปีเตอร์บัลด์ ถือเป็นแมวบ้านจากรัสเซีย ที่ร่างกายจะไม่มีขน โดยได้รับการผสมข้ามพันธุ์ ระหว่าง แมวพันธุ์ดอนสกอย & แมวขนสั้นโอเรียนทัล ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อปี ค.ศ. 1994 ปัจจุบันสายพันธุ์นี้ได้ถูกพัฒนา ไปในทิศทางของแมวขนสั้นโอเรียนทัล และแมวสยามของไทย จนสุดท้ายได้รับการยอมรับ

ให้เข้าร่วมการแข่งขัน และการโชว์ตัวในระดับ Championship ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 แต่ต่อมาในปี 2014 ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้สั่งห้ามเพาะพันธุ์สายพันธุ์นี้ เพราะกังวลถึงปัญหาที่จะตามมา กลัวว่าลูกหลานของแมวพันธุ์นี้ อาจมีปัญหาด้านสุขภาพได้ [1]

ข้อมูลจำเพาะสายพันธุ์

  • ชื่อทางการ : ปีเตอร์บัลด์ หรือปีเตอร์บอลด์
  • ชื่อเรียกทั่ว ๆ ไป : Petersburh Hairless Cat
  • ต้นทาง : เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
  • พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ : แมวพันธุ์ดอนสกอย & แมวขนสั้นโอเรียนทัล
  • จำพวก : แมวไร้ขน แต่บางตัวอาจมีขนเพียงเล็กน้อย
  • ขนาดรูปร่าง : เป็นแมวขนาดกลางถึงใหญ่
  • ความยาวลำตัว : มีลำตัวยาว 35 – 45 เซนติเมตร
  • ส่วนสูง : ตัวโตเต็มวัยมีส่วนสูง 20 – 25 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก : ตัวโตเต็มวัยจะหนักเต็มที่ 2.5 – 4.5 กิโลกรัม
  • อายุขัย : 10 – 12 ปี
  • บุคลิก : เป็นแมวขี้เล่น เข้าสังคมเก่ง ชอบโต้ตอบกับผู้อื่น และมักจะผูกพันกับเจ้าของ เป็นต้น

ที่มา: MEOW BARN – สายพันธุ์แมวปีเตอร์บัลด์ [2]

ลักษณะเด่นที่อาจทำให้ราคาแพง

ลักษณะเด่นของ Petersburh Hairless Cat ที่เชื่อว่า อาจทำให้พวกมันราคาแพง อาจเกิดจากมาตรฐานของสายพันธุ์ ที่มันสมบูรณ์แบบจนเกินไป ทั้งลักษณะรูปลักษณ์ที่สวยงาม บวกกับความฉลาด บุคลิกภาพต่าง ๆ โดยแมวพันธุ์นี้จะมีร่างกายที่แข็งแรง

มีความเพรียวบาง นี่ช่วยให้พวกมันเคลื่อนไหวได้สง่างาม อีกทั้งพวกมันยังมียีนเด่น จากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อีกด้วย ทำให้มีความแตกต่างจากแมวสฟิงซ์ นอกจากนี้ พวกมันไม่เพียงแต่ไร้ขน บางตัวอาจมีขนได้ ทั้งขนธรรมดาแบบเล็กน้อย และขนพองฟู เป็นต้น [3]

สาเหตุของสายพันธุ์แมว ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง ?

ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง

ด้วยสาเหตุที่ว่า ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง เนื่องจากแมวพันธุ์นี้เป็นแมวหายาก เช่นเดียวกันกับ แมวเจแปนนิส บ๊อบเทล โดยสาเหตุหลัก ๆ เลยก็คือ มีผู้เพาะพันธุ์ในประเทศรัสเซีย เพียงไม่กี่รายเท่านั้น ส่วนผู้เพาะพันธุ์ในชาติอื่น ๆ แทบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ออกมาสั่งห้ามการเพาะพันธุ์

จึงทำให้แมวพันธุ์นี้ มีราคาที่แพงแบบสูงลิ่ว แต่ค่าตัวที่แพงขนาดนี้ ก็ไม่อาจทำให้ความต้องการ ของทาสแมวชาติต่าง ๆ ลดลงเลย นอกจากนี้ ตามข้อเท็จจริงของ ประวัติ แมวพิกซีบ็อบ พันธุ์แมวจากสหรัฐอเมริกา ก็เป็นอีกหนึ่งแมวหายากเช่นกัน แถมค่าตัวยังแพงแตะที่ 27,000 – 33,000 บาทขึ้นไป

ปีเตอร์บอลด์ ราคาเท่าไร ?

การจะรับเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ อาจมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ถ้ารับซื้อจากผู้เพาะพันธุ์โดยตรง ซึ่งทาสแมวอาจจะต้องจ่ายเงิน ระหว่าง 500 – 2,500 ดอลลาร์ขึ้นไป ตีออกมาเป็นค่าเงินบาทไทยได้ 16,000 – 84,000 บาทขึ้นไป

ทั้งนี้ ค่าตัวที่ถูกตั้งตัวเลขสูงขนาดนี้ มักขึ้นอยู่กับสถานที่รับซื้อ สถานที่รับเลี้ยง หากทาสแมวมีความตั้งใจ จะเลี้ยงปีเตอร์บัลด์พันธุ์แท้ ให้แน่ใจก่อนว่า สถานที่นั้นมีเอกสารยืนยันสถานะ เพราะหากไม่มีเอกสาร มีสิทธิ์ที่แมวพันธุ์นั้น อาจจะเป็นเพียงปีเตอร์บัลด์ลูกผสม

Peterbald VS Sphynx ต่างกันอย่างไร ?

ด้วยแมวพันธุ์ปีเตอร์บอลด์ และแมวสฟิงซ์อาจมีลักษณะ ในส่วนของรูปร่างที่คล้ายกัน แต่เป็นสายพันธุ์แมว ที่มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ทั้งประเทศต้นทางที่มีการสร้างสายพันธุ์นี้ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ รวมไปถึงลักษณะของรูปลักษณ์ต่าง ๆ โดยหัวของปีเตอร์บัลด์จะยาวกว่า

ส่วนสฟิงซ์หัวจะสั้นกว่า อีกทั้งปีเตอร์บัลด์ยังมีหนวด ในขณะที่สฟิงซ์มีหนวดเพียงบางส่วน แต่บางตัวก็ไม่มีเลย เป็นต้น แต่สิ่งที่ 2 สายพันธุ์นี้เหมือนกันก็คือ “ การไม่มีขนปกคลุมบนลำตัว ” แต่มีผิวหนังลื่น ๆ ที่มีสีให้เลือกมากมาย อาทิเช่น สีดำ, สีคาราเมล, สีน้ำตาลอ่อน เป็นต้น

สรุป แมวปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง ?

ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง

แมวไร้ขนจากประเทศรัสเซีย นามว่า “ ปีเตอร์บัลด์ ” หรืออีกชื่อเรียกว่า “ ปีเตอร์บอลด์ ” แล้วแต่สะดวกว่าจะเรียกชื่อไหน พวกมันมีค่าตัวที่แพงสูงลิ่ว ทุกตัวที่เป็นพันธุ์แท้ ถูกตั้งค่าตัวในตัวเลขหลักหมื่นบาทขึ้นไป บางตัวก็ปาไปผลักแสนบาท เนื่องจากเป็นแมวหายาก ที่มีบางชาติห้ามเพาะพันธุ์ ทำให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ในรัสเซีย เพียงที่เดียวเท่านั้น

ปีเตอร์บอลด์มี ข้อดี – ข้อเสีย ไหม ?

ข้อดี : แมวปีเตอร์บอลด์ถือเป็นแมว ที่เข้ากับคนได้ง่าย รวมถึงสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ในบ้าน อีกทั้งยังสนุกไปกับการเล่นของเล่น หรือการโต้ตอบกับเจ้าของ นอกจากนี้ สุขภาพโดยรวมถือว่าเป็นแมวที่แข็งแรง

ข้อเสีย : ด้วยความที่เป็นแมวไร้ขน อาจมีความไวต่ออุณหภูมิ หากอากาศร้อน ผิวหนังของพวกมันอาจอักเสบได้ อีกทั้งการที่ลำตัวไม่มีขน อาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บต่าง ๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ พวกมันเป็นแมวหายากมาก ๆ ยิ่งถ้าเป็นพันธุ์แท้ ไม่มีผสม จะยิ่งหายากเป็นพิเศษ แน่นอนว่า ราคาจะแพงมาก ๆ ด้วย

คำถามที่พบบ่อยของ Peterbald มีอะไรบ้าง ?

แมวปีเตอร์บัลด์ควรเลี้ยงในบ้าน หรือนอกบ้าน : แมวพันธุ์นี้สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน แต่เจ้าของอาจจะต้องระมัดระวัง หากเลี้ยงพวกมันไว้นอกบ้าน อาจจะได้รับบาดเจ็บได้

แมวพันธุ์ใดที่เหมาะเล่นกับปีเตอร์บอลด์ : ด้วยนิสัยที่เป็นแมวขี้เล่น มีความกระตือรือร้น แน่นอนว่า เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับ Petersburh Hairless คือ แมวพันธุ์ที่มีชีวิตชีวา และรักในการเล่น

แมวไร้ขนชนิดนี้ เสี่ยงเป็นโรคอะไรไหม : แมวพันธุ์นี้ไม่เสี่ยงเป็นโรคอะไร แต่การที่พวกมันจะเจ็บป่วย มักขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ปัญหาสุขภาพที่มักพบจริง ๆ ได้แก่ จอประสาทตาเสื่อม และกล้ามเนื้อหัวใจโต เป็นต้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง