แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

ลักษณะ แมวเอลฟ์ ต่างจากแมวสฟิงซ์ยังไง ?

ลักษณะ แมวเอลฟ์

ลักษณะ แมวเอลฟ์ อีกหนึ่งสายพันธุ์แมว ที่ค่อนข้างเป็นพันธุ์แมวใหม่ มีลักษณะรูปลักษณ์ รวมไปถึงภาพรวมต่าง ๆ ยังไงบ้าง แล้วมีความเกี่ยวข้อง และแตกต่างจากแมวสฟิงซ์ยังไง หากมีความต้องการจะเลี้ยง มีสิ่งที่ควรรู้อะไรบ้าง ที่จะต้องรับทราบก่อนเลี้ยง ทุกข้อสงสัยมีคำตอบ

ทำความรู้จัก แมวลูกผสม “ Elf Cat ”

ด้วยแมวพันธุ์ไร้ขน อย่าง “ Elf ” ถือเป็นแมวลูกผสม ที่ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาโดย “ Kristen Leedom ” และ “ Karen Nelson ” ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2004 ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 ผู้เพาะพันธุ์ ได้ทำการผสมลูกแมวเอลฟ์เข้าด้วยกัน

ด้วยการนำแมวพันธุ์อเมริกันเคิร์ล & แมวสฟิงซ์ไร้ขนมาผสมพันธุ์กัน จึงทำให้สายพันธุ์นี้กลายเป็นแมวพันธุ์ใหม่ ที่เกิดขึ้นมาหลังจากที่แมวสฟิงซ์ ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ ทั้งนี้ การทดลองเพาะพันธุ์แมวเอลฟ์ ถือว่าประสบความสำเร็จ

เนื่องจากผู้เพาะพันธุ์ใช้เวลาน้อยกว่า 20 ปี ทำให้สมาคมแมวอื่น ๆ ยกระดับให้แมวเอลฟ์ ว่าเป็นแมวที่มีลักษณะน่าอัศจรรย์ จนสุดท้ายได้ไปโชว์ตัวในงานแข่งขัน และได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่ ที่มีลักษณะรูปลักษณ์ที่น่าตะลึง [1]

ภาพรวมแมวไร้ขน ประเภทลูกผสม

  • ชื่อทางการ : เอลฟ์
  • ต้นทาง : ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ผู้เพาะพันธุ์ : แมวพันธุ์นี้มีผู้เพาะพันธุ์ 2 คน ได้แก่ “ Kristen Leedom ” และ “ Karen Nelson ”
  • พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ : มีการนำแมวอเมริกันเคิร์ล และแมวสฟิงซ์มาผสมพันธุ์กัน ทำให้เกิดออกมาเป็นแมวเอลฟ์ไร้ขน
  • เวลาในการเพาะพันธุ์ : สายพันธุ์นี้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากใช้เวลาเพาะพันธุ์น้อยกว่า 20 ปี
  • กลุ่ม : เป็นกลุ่มแมวไร้ขน เช่นเดียวกันกับสฟิงซ์ รวมไปถึงแมว ปีเตอร์บัลด์ ทำไมแพง สายพันธุ์แมวที่มีราคาแพงถึง 16,000 – 84,000 บาทขึ้นไป
  • น้ำหนัก : 10 – 15 ปอนด์
  • อายุขัย : 8 – 14 ปี ซึ่งช่วงอายุอาจจะสั้นกว่า ลักษณะ แมวเนบีลัง พันธุ์แท้ โดยแมวพันธุ์นี้มีอายุขัยยาวนาน 11 – 18 ปี
  • สีขน : มีสีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีชมพู, สีเบจ และสีเทา
  • บุคลิก : เป็นแมวฉลาด มีความอ่อนหวานในบางครั้ง สามารถเข้ากับคนได้ง่าย เป็นต้น

ที่มา: the sprucePETS – Elf Cat : Breed Profile. ( แมวเอลฟ์ : โปรไฟล์สายพันธุ์ ) [2]

ลักษณะ แมวเอลฟ์ แท้ เป็นอย่างไร ?

สำหรับ ลักษณะ แมวเอลฟ์ สายพันธุ์แท้ ทาสแมวสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ ไปประกอบการพิจารณา เพื่อคัดเลือกแมวพันธุ์นี้ได้ โดยลักษณะเฉพาะต่าง ๆ มีให้สังเกตดังนี้

  • ร่างกาย : แมวเอลฟ์จะมีลักษณะเหมือนกับสฟิงซ์ มีกระดูกแก้มที่โดดเด่น หนวดเพียงเล็กน้อย มีผิวที่บอบบาง และมีหูที่โค้งงอไปด้านหลัง
  • สีขน / ลวดลาย : แมวเอลฟ์ไม่มีสีขนที่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากเป็นสายพันธุ์แมวมาใหม่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่สีส่วนใหญ่ที่ปัจจุบันมีอยู่ ได้แก่ สีเทา, สีดำ, สีชมพู และสีเบจ
  • สีตา : แมวเอลฟ์ไม่มีสีตาเหมือนกับสีขน แต่บางตัวอาจมีสีตาเป็นสีทอง สีเขียว หรือสีฟ้า เป็นต้น

แมว Elf ต่างจากแมว Sphinx ยังไงบ้าง ?

ลักษณะ แมวเอลฟ์

หากถามว่า แมว Elf ต่างจากแมว Sphinx ยังไงบ้าง โดย 2 สายพันธุ์แมวไร้ขนนี้ ถือว่าไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนัก แต่ส่วนที่จะต่างกันเลยก็คือ ใบหูของเอลฟ์จะม้วนงอ คล้ายกับแมวพันธุ์อเมริกันเคิร์ล ส่วนสฟิงซ์ใบหูจะตั้งตรงเป็นรูปสามเหลี่ยม นอกจากนี้ เอลฟ์ลำตัวจะเล็กกว่า ในขณะที่สฟิงซ์ลำตัวจะใหญ่ และมีน้ำหนักมากกว่า เป็นต้น

สิ่งที่ควรรู้เมื่อเลี้ยง Elf มีอะไรบ้าง ?

การตัดสินใจจะเลี้ยงแมวเอลฟ์ ทาสแมวจะต้องแน่ใจก่อนว่า คุณสามารถตอบสนองต่อความต้องการ ของพวกมันได้หรือไม่อย่างไร โดยสิ่งที่ควรรู้เมื่อเลี้ยง Elf จะมีดังนี้

  • ความต้องการด้านอาหาร : แมวไร้ขนชนิดนี้ จะมีระบบการย่อยอาหารที่บอบบางกว่า แมวพันธุ์ ท็องกินีส ดังนั้น ควรสอบถามผู้เพาะพันธุ์ หรือสถานที่ที่รับเลี้ยงก่อนว่า อาหารแบบไหนที่เหมาะกับพวกมัน
  • การเลี้ยงระบบปิด : แมวไร้ขนชนิดนี้จะรู้สึกหนาวได้ง่าย และอาจโดนแดดแผดเผาได้ง่ายด้วย ทาสแมวจึงควรเลี้ยงพวกมันในบ้าน หรือในร่ม
  • การฝึกอบรม : แมวไร้ขนชนิดนี้เป็นแมวฉลาด มีความขี้เล่นในระดับหนึ่ง จึงเหมาะที่จะฝึกสอนให้ทำตามคำสั่งต่าง ๆ
  • การดูแลขน : ด้วยการที่เป็นแมวไม่มีขน ทาสแมวอาจจะต้องใช้ผ้าขนนุ่ม ๆ เช็ดขนบนลำตัวเป็นครั้งคราว เพื่อขจัดคราบมันสะสม เป็นต้น

ที่มา: catster – Elf Cat Breed Info. ( ข้อมูลสายพันธุ์แมวเอลฟ์ ) [3]

3 ข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครรู้

  • แมวเอลฟ์เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ได้รับการพัฒนา และเพาะพันธุ์ครั้งแรกในปี 2004 จาก 2 ผู้เพาะพันธุ์ในสหรัฐอเมริกา โดยใช้แมว 2 พันธุ์มาผสมพันธุ์กัน ได้แก่ แมวอเมริกันเคิร์ล & แมวสฟิงซ์
  • แมวเอลฟ์ได้รับการขึ้นทะเบียน และรับรองสายพันธุ์จาก The International Cat Association ( TICA ) ซึ่งเป็นสมาคมแรกที่ทำการยอมรับ
  • แมวเอลฟ์ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะมีความต้องการเฉพาะส่วนตัว อีกทั้งยังเป็นแมวไร้ขน ที่มีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิ ดังนั้น ทาสแมวจึงจะต้องดูแลเป็นพิเศษ เป็นต้น

สรุป ลักษณะแมวเอลฟ์แท้

ลักษณะ แมวเอลฟ์

แมวลูกผสมไร้ขน อย่าง “ เอลฟ์ ” เป็นแมวที่มีรูปลักษณ์ รวมถึงโครงสร้างทางร่างกาย คล้ายกับแมวสฟิงซ์อย่างมาก ด้วยการมีโหนกแก้มที่โดดเด่น ลำตัวไม่มีขน แต่ใบหูจะม้วนงอไปด้านหลัง ด้วยลักษณะเฉพาะนี้ ทำให้พวกมันกลายเป็นแมวหายาก ราคาแพง

แมวเอลฟ์หายากขนาดไหน ?

แมวลูกผสมชนิดนี้ ถือเป็นแมวที่หายากมาก ๆ อาจจะหายากมากกว่าแมวสฟิงซ์ หรือแมวปีเตอร์บัลด์ ทั้งนี้ ราคาเริ่มต้นของเอลฟ์ จะถูกแบ่งเป็นลูกแมวเอลฟ์ 2,800 – 3,500 ดอลลาร์ขึ้นไป ซึ่งตีเป็นค่าเงินไทยได้ 94,000 – 117,000 บาท แต่หากเป็นตัวที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ราคาอาจจะเริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์ขึ้นไป

พันธุ์แมวไร้ขนใกล้เคียง มีอะไรบ้าง ?

หากสนใจจะเลี้ยงแมวลูกผสมชนิดนี้ แต่ติดที่ว่าพวกมันเป็นแมวหายาก ปัจจุบันมีแมวไร้ขนพันธุ์อื่น ๆ ให้เลือกอีก ไม่ว่าจะเป็น แมวสฟิงซ์ แมวแบมบิโน่ แมวปีเตอร์บัลด์ บลา ๆ

ซึ่งกลุ่มก้อนของแมวไร้ขน จะมีลักษณะที่คล้าย ๆ กัน หากใครชอบแมวไร้ขนตัวใหญ่ แนะนำให้เลี้ยงสฟิงซ์ หากใครชอบแมวไร้ขนขนาดกลาง แนะนำให้เลี้ยงปีเตอร์บัลด์ หรือหากใครชอบแมวไร้ขนขาสั้น แนะนำให้เลี้ยงแบมบิโน่ เป็นต้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง