
สโนว์ชู หายากไหม ทำไมถึงหายาก ?
- Pet Noi
- 76 views
สายพันธุ์แมว สโนว์ชู หายากไหม เพราะอะไรถึงหายาก แล้วข้อมูลที่ระบุในรายงาน เกี่ยวกับแมวสโนว์ชูว่า พวกมันเคยสูญพันธุ์ไป ในช่วงทศวรรษ 1970 จึงทำให้ประชากรในปัจจุบันหายาก เป็นข้อมูลจริงหรือไม่อย่างไร ทุกข้อมูลน่ารู้ของแมวสโนว์ชู หรือแมวหิมะ ทาสแมวจะได้ทราบก่อนใคร
อีกหนึ่งสายพันธุ์แมวบ้านจากสหรัฐฯ อย่าง “ แมวสโนว์ชู ” ว่ากันว่า พวกมันหายากมากในปัจจุบัน โดยได้เกิดมาในทศวรรษ 1960 ซึ่งเกิดจากแมวสยามของไทย ที่ผู้เพาะพันธุ์ได้นำมาผสมพันธุ์กัน จากนั้นทางผู้เพาะพันธุ์ ได้เขียนมาตรฐานสายพันธุ์
เพื่อส่งไปยังสมาคมแมวต่าง ๆ จนสุดท้ายประสบความสำเร็จ และได้รับสถานะ “ สายพันธุ์แมวทดลอง ” แต่พอเข้าปี ค.ศ. 1993 มีการขาดแคลนแมว และผู้เพาะพันธุ์ จึงทำให้ความนิยมเริ่มลดลง [1]
ที่มา: TICA – At a Glance : Snowshoe [2]
ถ้าพูดถึงลักษณะเด่นของสโนว์ชู น่าจะเป็นในส่วนของ “ สีขน ” และ “ ลวดลายขน ” โดยพวกมันมีสีขน มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้สร้างความโดดเด่น ความสง่างามให้กับแมวหิมะ เช่นเดียวกันกับแมวลายเสือ หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งว่า แมวลาย แท็บบี้
อีกหนึ่งพันธุ์แมวที่มีความโดดเด่น ในเรื่องของสีขน อีกทั้งจุดเด่นอีกส่วนหนึ่งก็คือ “ อุ้งเท้าสีขาว ” ที่ทาสแมวมักเรียกว่า “ รองเท้าลุยหิมะ ” อารมณ์เหมือนว่า พวกมันกำลังสวมใส่รองเท้า นอกจากนี้ แมวหิมะยังมีลายแต้มสีดำ บริเวณใบหู ใบหน้า และหาง อีกทั้งยังมีเครื่องหมายตัว “ V ” สีขาว
แต่เป็นลักษณะกลับหัวบนใบหน้า หากต้องการจะระบุว่า แมวที่เลี้ยงอยู่เป็นสโนว์ชู ให้ทาสแมวสังเกตที่อุ้งเท้าสีขาว, แต้มสีตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย, เครื่องหมายตัว V และดวงตาสีฟ้า หากแมวที่เลี้ยงอยู่มีลักษณะแบบนี้ หมายความว่า ทาสแมวกำลังเลี้ยงสโนว์ชูแท้ [3]
ด้วยข้อสงสัยที่ว่า สโนว์ชู หายากไหม ปัจจุบันปริมาณประชากร รวมไปถึงผู้เพาะพันธุ์หายากมาก โดยได้มีข้อมูลต่าง ๆ มากมาย บ้างก็ว่าแมวสโนว์ชูเคยเกือบสูญพันธุ์ไป บ้างก็ว่าการผสมพันธุ์อยู่ในขั้นทดลอง
ทำให้บางครั้งไม่ประสบความสำเร็จ บ้างก็ว่าแมวสโนว์ชูที่เกิดมาหลัง ๆ มียีนด้อยเยอะกว่ายีนเด่น บ้างก็ว่าปริมาณแมวสยามเหลือน้อย จึงทำให้การผสมพันธุ์กัน เพื่อให้เกิดมาเป็นแมวสโนว์ชู อาจจะต้องชะลอลง เป็นต้น
หากต้องการจะเลี้ยงแมวหิมะ เนื่องจากชอบในรูปลักษณ์ ฟาร์มแมวหิมะในไทยยังไม่มี แต่ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกา ประเทศต้นทางของพวกมัน ทาสแมวอาจจะต้องค้นหา รายชื่อผู้เพาะพันธุ์ ที่ได้ส่งเอกสารต่อสมาคมแมวต่าง ๆ
เพราะหากผู้เพาะพันธุ์กลุ่มไหน ที่ไม่มีเอกสารระบุตัวตน อาจจะเพาะพันธุ์แมวหิมะลูกผสม ที่ไม่ใช่สายพันธุ์แท้ แต่ทว่า แมวสายพันธุ์นี้หายากมาก ๆ อาจจะไม่มีรายชื่อผู้เพาะพันธุ์ให้เลือกเยอะ ทางที่ดีหาข้อมูลสายพันธุ์แมวอื่น ๆ เอาไว้เผื่อเลือกจะดีที่สุด
สายพันธุ์แมวหิมะ มีความเกี่ยวข้องโดยตรง กับแมวสยามของประเทศไทย เนื่องจากพวกมันเป็นแมวลูกผสม ระหว่าง แมวสยาม & แมวอเมริกันช็อตแฮร์ หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ แมวสยามเป็นบรรพบุรุษ เป็นสายเลือดโดยตรงของแมวหิมะนั่นเอง นี่จึงทำให้ลักษณะโครงสร้าง รวมถึงรูปลักษณ์หลาย ๆ อย่าง เหมือนกับแมวสยามของไทย [4]
ปัจจุบันสายพันธุ์แมวสโนว์ชู ค่อนข้างจะหายากเป็นพิเศษ ถ้าลองเอาไปเปรียบเทียบกับ อัตราหายากของแมวบ้านพันธุ์อื่น ๆ แมวสโนว์ชูอาจติดอันดับ 1 แมวหายาก ก็มีส่วนที่เป็นไปได้ ซึ่งสาเหตุที่พวกมันหายาก คาดคิดว่าอาจจะยังเป็นสายพันธุ์ทดลอง ที่ผู้เพาะพันธุ์ยังไม่เริ่มโครงการจริงจัง บวกกับปริมาณแมวสยามเริ่มลดลง จึงทำให้การเพาะพันธุ์ต้องชะลอลง
ข้อดี : แมวสโนว์ชูเป็นแมวฉลาด สามารถฝึกสอนคำสั่งพื้นฐานได้ อาทิเช่น สั่งให้นั่ง สั่งให้หมุนตัว หรือการขอมือ บลา ๆ อีกทั้งยังเป็นแมวนิสัยน่ารัก มีขั้นตอนการดูแลไม่เยอะ แถมยังไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพให้กังวล
ข้อเสีย : แมวสโนว์ชูเป็นแมวที่ชอบร้องเสียงดัง หากเลี้ยงไว้ในคอนโด หรือบ้านเช่า เจ้าของอาจจะต้องคอยกังวลเรื่องเสียง อีกทั้งยังเป็นแมวขี้เหงา ไม่ชอบอยู่ตัวเดียวนาน ๆ แนะนำให้เลี้ยงแมวพันธุ์อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อคลายความเหงาของพวกมัน นอกจากนี้ ยังเป็นแมวที่มีความต้องการ โดยเฉพาะการทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
หากสนใจจะรับเลี้ยงแมวสโนว์ชู จากผู้เพาะพันธุ์ในสหรัฐฯ แต่กลับเจอปัญหาต่าง ๆ ค้นหารายชื่อผู้เพาะพันธุ์ไม่เจอ หรือไม่ก็ประสบปัญหาเรื่องของราคา ที่ค่าตัวมันแพงจนเกินไป โดยแมวพันธุ์นี้อาจมีราคา 1,500 ดอลลาร์ ค่าเงินไทยราว ๆ 50,000 บาทขึ้นไป บล็อกนี้แนะนำให้มองหา สายพันธุ์แมวใกล้เคียง ยกตัวอย่างเช่น